รายการวิทยุ "มิโคราจิ" 5 มิ.ย. 25

5 มิ.ย. 25 (เช้าวันที่ 6 มิ.ย. 25)

ภาพจากรายการ

「คืนวันผันเปลี่ยนมาถึงวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันแห่งเครื่องดนตรี ดูเหมือนว่านี่จะอิงตามคำโบราณเก่าที่ว่า หากเราเริ่มเรียนดนตรีในวันที่ 6 เดือน 6 เมื่ออายุ 6 ขวบ จะสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แม้ผมจะเล่นดนตรีมาเป็นเวลานาน แต่ก็เพิ่งรู้เรื่องนี้วันนี้นี่แหละ ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำอะไรพิเศษในวันนี้นะ แต่เอาเป็นว่าทั้งผมและมายเมโลดี้สุดที่รักของผมต่างก็มีความสามารถในด้านดนตรี เรียกได้ว่าเป็นวันสำหรับผมและมายเมโลดี้เช่นกันนะครับ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนะ ก็ผมสงสัยว่าผมควรทำอะไรยังไง วันนี้เป็นวันเครื่องดนตรีใช่มะ ดังนั้นผมอาจจะต้องดูแลกีตาร์ ทำความสะอาดห้องเก็บเสียง หรือทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดนตรีดีนะ」


จากนั้นเปิดเพลง HIMIKO


「วงเราจะเริ่มทัวร์ทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคมและปรากฏตัวในงานเฟสบางงานในช่วงฤดูร้อนนี้ เรามาอ่านข้อความกัน」


ข้อความที่ 1 : จะขอร้องไปยังท่านมิโคโตะผู้อยู่เหนือการแบ่งแยกเพศ (พี่ลุง : อะไรนะ) ฉันส่งข้อความนี้มาเพื่อร้องขอการยุติการถกเถียงไปตลอดกาลว่ามิตรภาพระหว่างชายและหญิงมีอยู่จริงหรือไม่ คุณคิดว่ามิตรภาพนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ฉันได้คำตอบที่คลุมเครือว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์

✨️ พี่ลุงคอมเม้นท์ว่า 「งี้นี่เองนะ คำตอบที่ถูกต้องคือขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ท้ายที่สุดแล้ว โลกก็เป็นสีดำและสีขาวไม่ใช่หรอครับ มีบางครั้งพื้นที่สีเทาก็เป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุด ผมก็เพิ่งคิดเรื่องเดียวกันนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ผมสงสัยว่ามิตรภาพระหว่างชายและหญิงมีอยู่จริงหรือไม่ มันยากจริงๆ แหละ มันก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่แน่นอนว่ามันค่อนข้างยาก มีเงื่อนไขหรือปัญหาต่างๆ มากมายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อพูดถึงผู้ชายและผู้หญิง มีกับดักมากมายที่ไม่มีอยู่จริงหากพวกเขาเป็นเพศเดียวกัน มิตรภาพระหว่างชายและหญิง ตัวอย่างเช่น หากผู้ชายและผู้หญิงเป็นเพื่อนกัน และมีออกไปกินข้าวด้วยกัน มีส่งข้อความหากันหรือทำอะไรทำนองนั้น ซึ่งอีกฝ่ายก็แต่งงานแล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะทำแบบนี้ต่อไป ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายแต่งงานกับคนประเภทไหนด้วย พวกเขาอาจเป็นคนประเภทที่ไม่สนใจอะไรเป็นพิเศษ ดังนั้น มันคือมิตรภาพจริงๆ ผมคิดแบบนั้นนะ แต่มีโอกาสที่คนใดคนหนึ่งอาจพัฒนามิตรภาพขึ้นมาได้เนื่องจากความผิดพลาดบางอย่าง เช่น การปกปิด และมันก็มีความเสี่ยงสูงที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น ดังนั้นผมคิดว่ามิตรภาพนั้นเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่การที่จะทำให้มันเป็นมิตรภาพทั่วไปนั้นคงเป็นเรื่องยาก และการทำให้เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนนั้นก็เป็นเรื่องยาก เดาว่ามันคงมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่มันยุ่งยาก และหากแต่งงานแล้วและมีครอบครัวที่มีความสุข มันก็เป็นเพียงมิตรภาพ พูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นแค่มิตรภาพ มันเหมือนกับการส่งข้อความส่ง LINE แต่มันก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงไม่ดี ดังนั้นในท้ายที่สุดมันก็ไม่เวิร์ค แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ตอนนี้ก็คิดว่าไปถึงจุดไหนถึงเรียกว่าปลอดภัย จุดไหนไม่ปลอดภัย แต่ถ้าบอกว่าทุกอย่างไม่มีอะไรแล้ว ดังนั้นมันก็ไม่ยากเกินไป คุณจึงสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แน่นอน เหมือนกับว่าคุณทั้งคู่ไม่มีความรู้สึกแบบนั้น แต่ถ้าคนๆ นั้นมีแฟนหรืออะไรประมาณนั้น มันก็จะกลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถติดต่อกับเขาได้อีกต่อไป อย่างผู้ชายไปกับผู้หญิงแล้วพูดทำนองว่า "ครอบครัวแกนี่เป็นครอบครัวที่ดีจังนะ" จากนั้นก็ออกไปกินข้าวข้างนอกหรืออะไรทำนองนั้น แต่ต่างคนก็ต่างมีครอบครัวอยู่แล้ว แต่ก็กังวลเกี่ยวกับบางอย่างเกี่ยวกับครอบครัว แล้วคุณก็พูดว่า "ไปกินข้าวข้างนอกกันเถอะ" หรือ "ไปดื่มกันข้างนอกกันเถอะ" จากนั้นก็พูดขึ้นถึง "สามีของฉัน" ก็พูดอะไรทำนองนั้นกับผู้ชายคนนั้น จากนั้นก็เกิดคำถามขึ้นว่านั่นโอเคไหม หากบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็แปลว่ามันเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นผมคิดว่ามันมีขีดจำกัด ใช่แล้ว มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือความคิดในแบบของผม」


ข้อความที่ 2 : ฉันตั้งใจจะไปงานยุคคุหริอันเกียะมิโซกิด้วยค่ะ (พี่ลุง : ขอบคุณครับ) และนั่นคือมิโซกิแรกของฉันด้วย เริ่มรู้สึกประหม่าแล้วค่ะ มีข้อแนะนำอะไรมั้ยคะ (พี่ลุง : ประหม่าหรอครับ แค่ไปสนุกกันก็พอนะ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลย) แล้วท่านมิโคโตะล่ะคะ ตอนไปดูวงอื่นเคยประหม่าแบบนี้มั้ยคะ

✨️ พี่ลุงคอมเม้นท์ว่า 「ผมไม่เคยนะครับ ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมต้องประหม่าเวลาไปดูไลฟ์ ผมได้ยินคนจำนวนมากพูดว่าพวกเขาประหม่าบ้าง เช่น "ฉันควรทำไงดี" ไม่รู้ว่าทำไมถึงประหม่ากันนะ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ไปขึ้นเวที ไม่ได้ไปร้องเพลง แค่จ่ายเงินเท่านั้น แค่กำลังจะไปหาศิลปินที่ตัวเองชอบนะ ดังนั้นก็ควรจะสนุกไปกับมัน อย่างถ้าเราจ่ายเงินเพื่อไปร้านอาหาร และได้กินอาหารอร่อยๆ จ่ายเงินไปสวนสนุก เพื่อไปเล่นที่สวนสนุก ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเลย แค่ปล่อยไปตามสบาย และควรจะสนุกไปกับมัน แต่หากไม่รู้สาเหตุของความกังวลนี้ก็ไม่สามารถบอกอะไรได้นะ ผมเดาว่ามันคงเป็นความตึงเครียดจากการเข้าไปในโลกที่ไม่รู้จัก

อย่างในอดีตผมเนี่ย เคยไปที่นึง ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอาคารทรุดๆโทรมๆ ที่มีผู้เช่าหลายรายอยู่ แถวบ้านเกิดของผม เป็นอาคารที่มีแต่บันไดจากชั้นสองเท่านั้น และบนชั้นสองในกลุ่มอาคารที่พักอาศัย มีเพียงบันไดหรืออะไรทำนองนั้น และพอขึ้นบันไดไป ก็จะมีอาคารเก่าๆ เล็กๆ แห่งหนึ่ง รู้สึกเหมือนมีประตูสู่ตัวอาคาร และมีบาร์สาวสองอยู่ในอาคารเล็กๆ นั้น ผมรู้สึกประหม่ามากเมื่อเข้าไป ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงตัดสินใจเข้าไป แต่ในเวลานั้น ผมอยู่ในช่วงที่อยากจะพบเจอสิ่งใหม่ๆ เป็นอย่างมาก และความอยากรู้อยากเห็นก็พลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้สึกประทับใจมากกับความคิดที่ว่าโลกใบใหม่จะเปิดกว้างให้ผมได้พบเจอผ่านการพบเจอเหล่านี้ หากไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นก็ไม่เป็นไร แต่หากผมเปิดประตูบานนั้น บางทีชีวิตใหม่ทั้งชีวิตอาจกำลังรออยู่ก็ได้ ผมก็สงสัยว่าโลกจะเป็นแบบไหน และก่อนที่ผมจะลองเปิดประตูบานนั้น ก็หยุดไปประมาณ 3 นาที ผมรู้สึกประหม่า และเดาว่ามันคงคล้ายกับความรู้สึกประหม่านั้น เมื่อนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น ก็รู้ว่าผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรีบลงมือทำ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น แต่เราจะเข้าใจเมื่อลงมือทำ รีบลงมือทำเลย เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว เมื่อเข้าไปในร้านก็ไม่มีอะไรที่ "ว้าว" เป็นพิเศษ แต่มันก็น่าทึ่งมาก ถ้าผมเล่าให้คุณฟังที่นี่ มันจะกลายเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งตลอดไป แต่ไว้แค่นี้ก่อน มันมีเหตุการณ์ที่น่าทึ่งเกิดขึ้นหลังจากนั้น ผมอยากจะเล่าเรื่องนั้นในโอกาสอื่นแทน การพบปะใหม่ๆ ที่วิเศษนั้นกำลังรอคุณอยู่ ดังนั้นอย่ากังวลและรีบเข้ามาสนุกกันนะ สิ่งที่ต้องเตรียมใจมาคือเมื่อมาเข้าร่วมแล้ว จงสนุกไปกับตัวเอง ดังนั้น โปรดใช้เวลาของคุณให้เต็มที่และเพลิดเพลินไปกับมิโซกินะครับ」


ช่วงโอโตะดามะ

「โอโตะดามะ วันนี้ เพลง Nippon jin ของวง Kome Kome Club ผมฟังเพลงนี้ตอนเด็กๆ และผมจึงเข้าใจว่าศิลปินก็เป็นแบบนี้แหละ ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่า Kome Kome Club เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เนื้อเพลงพวกนี้เลยออกมาประมาณนี้ มีคำว่า "ฮ่าๆ" ในเพลง และมีเพลงทำนองนั้นใน Zigzag ด้วย ชื่อเพลงอะไรนะ "ฮ่าๆ" อะไรนะเหรอ HIMIKO ที่คุณได้ยินตอนต้น เพลงมีธีมประมาณนั้นจากยุคโจมงและอาสึกะ และย้อนกลับไปไกลกว่านั้นอีกหน่อย (อันนี้ไม่ได้แปลทั้งหมดเนื่องจากเหนื่อย)」


ข้อความที่ 3 : ตอนนี้ฉันอายุ 37 ปีแล้ว พอฉันกินราเมนเซะอาบุระหรือทงคตสึซึ่งเป็นอาหารโปรดของฉัน ก็จะท้องเสียทุกที ก็คิดๆ ว่าควรเลิกกินมันหรือจะยังกินต่อไป เพราะมันคือของโปรดของฉันแม้ว่ามันจะทำให้ท้องเสียก็ตาม ท่านมิโคโตะล่ะคะจะทำยังไง ท่านมิโคโตะอายุแค่ 2 ขวบ อาจจะไม่เคยมีอะไรแบบนี้ แต่มีอาหารอะไรที่ชอบและไม่สามารถกินได้อีกต่อไปมั้ยคะ

✨️ พี่ลุงคอมเม้นท์ว่า 「อายุ 37 หรอ รู้สึกเห็นใจมาก แปลกจัง แต่ผมแค่ 2 ขวบเอง ผมรู้นะว่าราเมนเซะอาบุระหรือทงคตสึนั่นน่ะมันอร่อยจริงๆ แต่ถ้ามันทำให้คุณปวดท้อง นั่นหมายความว่าร่างกายของคุณกำลังต่อต้านมัน และคุณไม่ควรกินมันอีกต่อไป ผมน่ะกินแน่นกินจุกแค่ไหนก็ยังสบายๆ แม้แต่ราเมนเซะอาบุระเนี่ย ซึ่งผมยังไม่เคยเป็นถึงขั้นนั้น ร่างกายน่ะสำคัญกว่าสิ่งใดในชีวิต ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ในช่วงหลังๆ มานี้ ในส่วนของโปรดของคุณ หากชอบราเม็ง ชอบมาก...พูดถึงเรื่องกิน ท้องของผมก็หิวขึ้นมา ผมหิวมากจริงๆ นะ แม้ว่าจะไม่ได้กินมากขนาดนั้น แต่มันจะไม่ปกติ ร่างกายจะเริ่มฝืนที่จะรับ ถ้าเรายังอยากกินมันอยู่ทุกวัน ร่างกายจะเริ่มปฏิเสธอาหารเหล่านั้น และในขณะเดียวกัน คุณจะไม่อยากลำบากใจขนาดนั้นเพื่อกินมันอีกต่อไป ดังนั้นท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพียงนิสัยของเราเท่านั้นเอง เป็นไปได้ที่คุณจะอยากกิน แต่ถ้าคุณหยุดกินไปสักพัก มันอาจจะไม่เป็นไร เอ่อ ท้องผมเริ่มร้องจริงๆ แล้วนะ รู้สึกเหมือนจะร้อง ตอนนี้ท้องผมร้องได้ทุกเมื่อ เอ่อ มันไม่มีทางเลือกละนอกจากต้องหยุด ถ้าหยุดสักพัก แต่มันก็มีของอร่อยๆ อื่นๆ มากมายให้เลือกกินนะ แล้วพอคุณมากินต่อ อาจจะรู้สึกดีขึ้นนะ แต่ผมยังไม่เคยปวดท้องนะ ดังนั้น เอ่อ ก็ให้อดใจไว้ และแบ่งช่วงไว้ประมาณสองครั้งต่อเดือนเพื่อกินมื้อใหญ่ ถ้ากินไปครั้งนึง แล้วพอถึงตอนเช้า ในหนึ่งวันนั้น ก็ลดปริมาณการกินอาหารลง เพื่อให้เกิดความสมดุล ใช่แล้ว สำหรับเด็กอายุ 2 ขวบ นั่นเป็นเรื่องปกติ นี่ฟ้าร้องหรอ ฟ้าร้องใช่ป่ะ ฟ้าร้องเหรอ ฝนไม่ได้ตกนะ มีเสียงคำรามเมื่อกี้ (น่าจะหมายถึงท้องร้อง) ตกลงเรื่องอะไรล่ะเนี่ย อ้อ เรื่องอาหารที่ชอบแต่กินไม่ได้แล้ว แต่ถ้ากินอะไรเข้าไปแล้วรู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย ก็อย่าฝืนตัวเองอีกต่อไปนะครับ อายุ 37 แล้ว ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยนะครับ โปรดงดกินของประเภทนั้นนะครับ ทั้งราเมนเซะอาบุระและทงคตสึ แค่นั้นเองครับ โอเคมั้ย ขอบคุณครับ」


จากนั้นแนะนำเรื่องแผ่นมิโซกิอารีน่าที่กำลังจะออกว่ามี 3 แบบ บลาๆๆ และปิดท้ายด้วยเพลง Barinegi


✨️✨️✨️✨️✨️✨️✨️✨️✨️✨️

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Blog Map

รายการวิทยุ "มิโคราจิ" เดือน ม.ค. 2025

สตอรี่สะเทือนใจของพี่ไดชิ